เพอร์ไลท์ เป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการปลูกพืชผักไฮโดรโปนิกส์

เพอร์ไลท์  เป็นยังไง (Perlite)เป็นสิ่งของปลูกที่ได้มาจากย่อยหินภูเขาไฟประเภทหนึ่งที่มีชื่อเรียกเดียวกัน (หินเพอร์ไลท์) จนถึงมีขนาดเล็กละเอียด แล้วก็ค่อยนำไปผ่านความร้อนที่ระดับอุณหภูมิราว 850-900 องศาเซลเซียส จนได้เป็น พร้อมใช้ที่มีลักษณะเป็นก้อนกรวดเนื้อโปร่งสีขาว มีขนาดตั้งแต่ 2-8 มม. คุณลักษณะที่สะดุดตาของ เป็น มีน้ำหนักค่อย ส่วนประกอบด้านในมีลักษณะเป็นรูพรุนก็เลยทำให้ สามารถซับน้ำได้โดยประมาณ 3-4 เท่าของน้ำหนักตัวและก็ช่วยเก็บกักความชื้นในดินปลูกได้ดิบได้ดี

ดังนี้ก็ไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะมีผลให้ดินปลูกเปียกชื้นหรือมีความชุ่มชื้นสะสมมากจนเกินไป ด้วยเหตุว่า มีพื้นที่ร่วนและก็โปร่ง ก็เลยช่วยลดความหนาแน่นแล้วก็การจับตัวกันจบกลายเป็นก้อนแข็งของดิน เพิ่มอัตราการไหลเวียนของอากาศรวมทั้งน้ำในอุปกรณ์ปลูก ทำให้รากพืชเดินได้สบายแล้วก็แข็งแรง เพิ่มอัตราการรอคอยดแล้วก็การเติบโตของพันธุ์พืชได้อย่างดีเยี่ยม

เพอร์ไลท์ เป็นหินภูเขาไฟที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

เป็นสิ่งของธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาจากการเสื่อมสลายของหินภูเขาไฟ โดยเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่มีน้ำเข้าไปทำปฏิกิริยากับหินอ๊อบสิเดียน ชอบเจอตามธรรมชาติ เมื่อถูกเผาจะมีการขยายตัว มีการประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรม รวมทั้งได้ผลผลิตทางด้านการค้าที่เป็นประโยชน์ เนื่องจากว่าคุณลักษณะที่มีน้ำหนักค่อยภายหลังจากผ่านขั้นตอนการเผาไปแล้ว เมื่อได้รับความร้อนราวๆ 850-900 องศาเซสเซียล หินเพอร์ไลท์จะมีการขยายตัว มีผลต่อการดูดดูดซับฟองอากาศของหิน ในตอนนี้นิยมนำเอามาใช้เป็นสิ่งของปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์ในระบบ NFT

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ โดยธรรมดาจะนิยมนำเอา รวมทั้งเวอร์มิคูไลท์มาใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับในการปลูก เนื่องมาจากคุณมีทรัพย์สินที่ซับน้ำและก็ซับน้ำเจริญ ก็เลยช่วยทำให้ผักกาดหอมมีอัตราการงอกแล้วก็เจริญวัยดีมากยิ่งกว่าสิ่งของแบบอื่นๆเพียงแค่การปลูกด้วย แล้วก็เวอร์มิคูไลท์จะมีต้นทุนที่มากขึ้นเพียงแค่นั้น การผสม และก็เวอร์มิคูไลท์ นิยมผสมในอัตราส่วน 6:1 ประยุกต์ใช้ร่วมกับถ้วยปลูกผักไฮโดรโปนิกส์สีเขียวแบบที่ใช้งานครั้งเดียว  (Perlite) เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นก้อนอิฐหินทรายขนาดเล็กๆมักถูกใช้ในลัษณะของการแก้ไขดินหรือใช้ในงานสร้าง

เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับการระบายน้ำหรือกันรากเยื่อพืชในสวนหรือสนามกอล์ฟ  เพอร์ไลท์   มันเป็นสิ่งของที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในสินค้าเพาเวอร์มอร์ตาร์ ในช่วงเวลาที่มีลักษณะค่อยกว่าดินธรรมดาแต่ว่าก็มีความแข็งแรงและไม่เน่าเหม็นด้วย มีสาเหตุจากการแผ่ขั้นตอนในธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นฟองน้ำที่เข้าไปในหินอัลติดอยู่ลินี (obsidian) โดยมีการทำลายโดยความร้อนในลักษณะที่เรียกว่า “expansion” ซึ่งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการขยายตัวของฟองน้ำด้านในหินอัลติดอยู่ลินี ผ่านแนวทางการที่เรียกว่า “แนวทางการทำละลายทางความร้อน” แล้วหลังจากนั้นหินอัลติดอยู่ลินีที่เกิดการขยายตัวจะแปลงเป็นเพอร์ไลท์

มีคุณลักษณะด้านกายภาพที่ช่วยทำให้เหมาะกับการใช้แรงงานสำหรับในการแก้ไขดินหรือในงานสร้าง ยกตัวอย่างเช่น มีน้ำหนักค่อย แรงต้านทานต่อศักย์กระแสไฟฟ้า และก็มีแรงต้านทานต่อสารเคมี นอกเหนือจากนั้นยังมีความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการระบายน้ำได้ดิบได้ดี ทำให้ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับในการรองรับระบบระบายน้ำในดิน และก็สามารถกันรากเยื่อพืชได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับเพื่อการเปลี่ยนแปลงดินเพื่อใช้สำหรับในการเพาะปลูกพืช  สามารถผสมกับดินปลูกเพื่อเพิ่มการระบายน้ำรวมทั้งลดการกัดกร่อนของดิน ทำให้รากพืชสามารถเติบโตได้อย่างเหมาะควร นอกเหนือจากนี้ ยังช่วยสำหรับในการควบคุมอุณหภูมิในดิน ทำให้รากพืชไม่พบเจอกับความร้อนหรือความเย็นที่สูงเหลือเกิน

ในการก่อสร้าง สามารถใช้เป็นองค์ประกอบของฝาผนังหรือรากฐานสำหรับการสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและก็คุณภาพสำหรับการระบายน้ำขององค์ประกอบ นอกเหนือจากนั้นยังมีการนำ มาใช้ในงานฉาบหรือครามผิว ซึ่งช่วยเพิ่มความราบเรียบเนียนและก็ความแข็งแรงให้กับผิวพื้นส่วนประกอบ ในทุกสิ่ง  มักถูกใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับเพื่อการปลูกพืชในกระถางหรือกระเช้า โดยเพิ่ม ลงในดินเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับในการระบายน้ำรวมทั้งผลักดันการเติบโตของรากพืช นอกนั้นยังมีการนำ มาใช้สำหรับการปรับปรุงแก้ไขดินที่มีความเป็นกรดจากน้ำยางพารา หรือใช้สำหรับการปลูกกล้วยไม้และก็ไม้ประดับอื่นๆเพื่อเพิ่มความร่วมแรงร่วมมือสำหรับเพื่อการระบายน้ำและก็คุ้มครองการเกิดรากเยื่อเหยเก

เพราะฉะนี้ เป็นสิ่งของที่มีความมากมายสำหรับเพื่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเพื่อการแก้ไขดินสำหรับเพื่อการเพาะปลูก การก่อสร้าง หรือสำหรับในการแบ่งสรรพื้นที่สำหรับทำการเพาะปลูกพืชในสวนหรือสนามกอล์ฟ การใช้ ช่วยสำหรับการปรับแก้ภาวะดินรวมทั้งสร้างสิ่งแวดล้อมที่สมควรสำหรับในการเติบโตของพืช นับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งของปลูกที่ช่วยสำหรับการระบายน้ำได้ดิบได้ดี มีน้ำหนักเบามาก สามารถช่วยเพิ่มความโล่งในดิน เป็นอุปกรณ์ปลูกที่รู้จักกันดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งปลูกแคคตัสหรือตะบองเพชร มีลักษณะเหมือนหินขนาดเล็ก มีสีขาว น้ำหนักค่อย   นับว่าเป็นหินภูเขาไฟประเภทหนึ่งด้วยเหมือนกัน

 

หินภูเขาไฟประเภทหนึ่ง เนื้อเป็นแก้ว เป็นไม่มีรูปผลึก

มีส่วนประกอบหลักคล้ายกับหินไรโอไลต์ แม้กระนั้นมีน้ำแทรกอยู่ 2-5 ฉะนั้น ก็เลยมีลักษณะเด่นเป็น เมื่อบดเป็นก้อนเล็กๆแล้วก็ค่อยนำไปเผาราวๆ 800-1 000 องศาเซลเซียส จะขยายตัวแบบป๊อบคอร์น ทำให้มีรูพรุน มีเนื้อเป็นโพรง รวมทั้งมีน้ำหนักค่อย 0 5-0 8 กรัม ซีซี จากคุณลักษณะนี้ ก็เลยสามารถเอาไปใช้งานได้นานัปการ ตัวอย่างเช่น ใช้เป็นอุปกรณ์ผสมน้ำหนักค่อย แทนทรายก่อสร้าง ในงานคอนกรีต ใช้ทำฝาผนัง-ฝ้ากันความร้อน ทนความร้อน ใช้เป็นตัวดูดซึมของเหลว ของเสีย หรือใช้แก้ไขดินเพื่อทำการเกษตร

โดยจะก่อให้ดินที่ร่วนซุย อากาศและก็น้ำระบายได้สบาย จัดเป็นแร่อุตสาหกรรมที่มีอนาคตดี ในบ้านพวกเรามีแหล่งอยู่รอบๆอำเภอโคกรุ่งเรืองและก็สระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี มีการทำเหมือง 2-3 เหมือง แต่ว่าเนื้อหาเรื่องเหมืองและก็ราคาจะชี้แนะให้ติดต่อที่ประชุมการบ่อแร่ จะได้ข้อมูลชัดแจ้งเยอะขึ้น เวอร์มิคูไลต์เป็นแร่ในกรุ๊ปไมก้า ซึ่งคุณลักษณะเด่นของแร่กรุ๊ปไมก้าเป็น การมีส่วนประกอบผลึกเป็นแผ่นซ้อนๆกัน แต่ว่าก็มิได้มีความหมายว่า ไมก้าทุกตัวจะสามารถแตกแล้วก็ขยายตัวเป็นตัวหนอนได้เสมือนเวอร์มิคูไลต์ ไม่เจอเป็นแหล่งแร่ที่พอเพียงจะทำเหมืองได้ในบ้านพวกเรา ที่เจอก็เป็นเพียงแต่องค์ประกอบในดินบางพื้นที่ คุณลักษณะสำคัญของเวอร์มิคูไลต์เป็น

(perlite)  เป็นอุปกรณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาจากการเสื่อมสภาพของหินภูเขาไฟเป็นซิลิกาสีขาวอมเทาได้มาจากลาวาของภูเขาไฟ ธรรมชาติยังไม่เหมาะสมที่จะใช้เป็นวัสุดปลูก จึงควรนำไปผ่านการบดแล้วก็ภาวะความร้อนมากถึง 760 องศาเซลเซียส ก็เลยขยายตัวพองเสมือนฟองน้ำ มีน้ำหนักค่อย สามารถซับน้ำได้ 3-4 เท่า ไม่มีธาตุอาหารพืชและไม่สามารถเปลี่ยนประจุบวกได้ ถ้าหากใช้กับพืชที่อ่อนแอต่อฟลูออไรด์จะมีปัญหา

เมื่อเผาแล้ว มีความหนาแน่นราวๆ 95 – 145 kg/m3 มีความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการซับน้ำรวมทั้งระบายอากาศเจริญ เมื่อขยายตัวแล้วมีเสถียรภาพดี มีการยุบน้อย  เป็นอนินทรีย์ ผสมลงในดิน มีความคงทนถาวร ไม่เสื่อมสภาพจากจุลอินทรีย์ มีธาตุอาหาร ธาตุฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม เป็นแหล่งธาตุสำคัญที่พืชเอาไปใช้ผลดี เหมาะสมกับการปลูกผัก ไฮโดรโปนิกส์ พืชดอกไม้ประดับ ไม้ผล แล้วก็ผักสวนครัวทั่วๆไป เป็น หินภูเขาไฟประเภทหนึ่งที่มีจำนวนน้ำในตัวค่อนข้างจะสูง เป็นหินภูเขาไฟที่เจอตามธรรมชาติ กระจายตัวอยู่ในหลายประเทศทั่วทั้งโลก

Perlite แล้วก็ เวอร์มิคูไลต์ vermiculite เป็นสารเติมแต่งในดินตามธรรมชาติที่ช่วยปรับให้ปรุงส่วนประกอบของดินเช่นเดียวกัน แต่ว่าความไม่เหมือนที่สำคัญระหว่างทั้งยังอุปกรณ์ปลูก อีกทั้ง2จำพวกนี้ จะก่อให้ดินปลูกของพวกเรานั้นมีความความเหมาะสมสำหรับเพื่อการใช้งานที่แตกต่างไป ซึ่งเกิดเรื่องที่สำคัญ พวกเราจำเป็นที่จะต้องทำความรู้จักคุณสมบัติ แล้วก็ไม่เหมือนกันของสิ่งของปลูกทั้งยัง2 เพื่อเป็นแถวทางในการปรุงดินปลูกของพวกเราให้เหมาะสมกับ การใช้แรงงาน สิ่งแวดล้อม รวมทั้งความประพฤติปฏิบัติการดูแลพืชของพวกเราได้

 

ประโยชน์ที่ได้รับมาจากเพอร์ไลต์สำหรับการเป็นสิ่งของปลูก

• เพอร์ไลต์ นับว่าเป็นอีกลู่ทางหนึ่งของผู้ที่ปลูกพืชและก็ปลูกพืชแบบไฮโดรโพนิกส์ มูลเหตุที่เพอร์ไลต์มีคุณลักษณะสำหรับการเหมาะสมที่จะเป็นสิ่งของปลูก มีดังนี้
•  เพอร์ไลต์มีรูปร่างที่แน่ๆรวมทั้งทรงสภาพอยู่ได้ ไม่ย่อยสลายง่ายเมื่อใช้เป็นสิ่งของปลูก
•  มีค่าความเป็นกรด-เบส (pH) ที่เป็นกลาง
•  ไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษต่อพืชแล้วก็เป็นธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
•  มีคุณลักษณะที่เป็นรูพรุน ทำให้มีอากาศสามารถเข้าไปได้แล้วก็รากสามารถหายใจได้
•  มีคุณลักษณะซึ่งสามารถซับน้ำได้

สำหรับในเนื้อหานี้พวกเราจะมากล่าวถึงอีกหนึ่งสิ่งของปลูกยอดนิยมในแวดวงเกษตรมาตรงเวลานานรวมทั้งถูกใช้อย่างล้นหลามไม่แพ้อุปกรณ์ปลูกจำพวกอื่นๆอย่าง “  (Perlite)” หินภูเขาไฟที่มาพร้อมด้วยคุณลักษณะสุดสะดุดตา เหมาะกับใช้ปรับประสิทธิภาพดินปลูกให้ร่วนและก็โปร่ง เกื้อหนุนระบบรากให้แข็งแรง ปราศจากโรค ช่วยทำให้ต้นไม้แล้วก็พืชพันธุ์เจริญวัย ติดดอกออกดอกออกผล ยืนต้นงดงาม

ต้นตอของ  (ที่ใช้เป็นสิ่งของปลูก)เป็นหิน ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นได้เองในธรรมชาติ พบได้บ่อยในประเทศอาร์มีเนีย กรีซ ประเทศตุรกี อเมริกา และก็ฮังการี ซึ่งหินภูเขาไฟจำพวกนี้เป็นหินภูเขาไฟที่มีจำนวนน้ำในตัวค่อนข้างจะสูง มีต้นเหตุมาจากการเย็นรวมทั้งแข็งลงอย่างเร็วของลาวาจนกระทั่งทำให้ได้หินที่มีลักษณะเป็นเนื้อแก้ว (Volcanic Glass) เปลี่ยนเป็นหินออบสิเดียน (Obsidian) ที่ตัวหินจะเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ เนื้อหินเนียนละเอียดแล้วก็มีผลึกเล็กมากมาย ถัดมาเมื่อหินออบสิเดียนกลุ่มนี้ทำปฏิกิริยากับน้ำเป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็จะเปลี่ยนเป็นหิน ซึ่งโดยส่วนมากจะมีสีดำหรือสีเทา มีขนาดแล้วก็ทรงที่ไม่แน่นอน

โดยแนวทางการผลิต ที่ใช้เป็นสิ่งของปลูก ทำเป็นโดยการนำหิน ขนาดใหญ่โกรธแค้นเบิดเพื่อย่อยให้หินละเอียดเป็นชิ้นเล็กๆได้เป็น ดิบ หลังจากนั้นก็เลยนำ ดิบไปผ่านกรรมวิธีความร้อนที่ระดับอุณหภูมิ 850-900 องศาเซลเซียส จนได้ พร้อมใช้ที่มีขนาดขยายใหญ่ขึ้น 7-16 เท่าของ ดิบ ค่าความหนาแน่นลดน้อยลงจาก 1,100 kg/m3 เหลือที่ราว 30-150 kg/m3 ก็เลยทำให้ มีความพรุนในตัวสูง ช่วยลดความหนาแน่นและก็เพิ่มช่องว่างให้ดินปลูก และก็เป็นสิ่งของปลูกที่มีคุณลักษณะสำหรับในการซึมซับความชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยม

คุณลักษณะข้างต้นนี้ทำให้เพอร์ไลต์หมาะสมแก่การใช้เป็นสิ่งของปลูกไว้ในการปลูกพืช ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเติบโตของพืช โดยคุณลักษณะสำคัญที่ทำให้พืชเติบโตเป็นอากาศแล้วก็การระบายน้ำ ซึ่งเพอร์ไลต์มีคุณลักษณะสำคัญที่เหมาะสมแก่วิธีการทำให้พืชเติบโต
1. เพอร์ไลต์มีคุณลักษณะที่โปร่ง ทำให้มีอากาศในสิ่งของปลูกสูง พืชจะต้องรับออกสิเจนไม่ใช่เฉพาะทางใบแต่ว่าทางรากก็เช่นเดียวกัน เมื่ออุปกรณ์ปลูกมีรูพรุนมากมายเท่าไร รากของพืชจะยิ่งซับได้ดิบได้ดี และก็การมีอากาศในสิ่งของปลูก สำเร็จให้ระบบรากมีความแข็งแรงเยอะขึ้นเรื่อยๆ
2. น้ำที่มากเหลือเกินอาจจะเป็นผลให้รากของพืชเน่าได้

การระบายน้ำที่ดีก็เลยเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดที่ทำให้อากาศสามารถเข้าไปในดินได้ โดยเหตุนี้  omg666  การใส่เพอร์ไลต์เข้าไปกับดินทำให้ดินมีช่องว่างนอกนั้นยังมีคุณลักษณะที่ระบายน้ำได้ดิบได้ดี ไม่ทำให้น้ำนองในดิน ความแตกต่างในการกักเก็บน้ำ และการกระตุ้นการไหลเวียนของอากาศ จะเป็นตัวกำหนดว่าพืชชนิดใดจะเติบโตได้ดีเมื่อใช้ผสมกับดิน พืชที่ต้องการน้ำมากจะเติบโตได้ดีในเวอร์มิคูไลท์ ในขณะที่พืชที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแห้งแล้ง เช่นแคคตัส และพืชอวบน้ำต่าง ๆ จะเติบโตได้ดีในหากคุณปลูกพืชที่ต้องการความชื้นมาก จะเติบโตได้ดีในเวอร์มิคูไลท์

ในสภาวะแวดล้อม กลางแจ้งที่มักจะแห้งเร็ว เวอร์มิคูไลท์จะมีความเหมาะสมกว่า แต่สำหรับต้นไม้ในบ้าน ความชื้นที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาโรคราได้ ซึ่งการใช้เพอร์ไรท์จะมีความเหมาะสมกว่าในเรื่องการระบายความชื้น อีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญและมักจะมองข้ามกัน ก็คือเรื่องพฤติกรรมในการดูแลต้นไม้ขอแต่ละคน เช่นความถี่ในการรดน้ำที่ไม่เท่ากัน บางคนอาจชอบดูและรดน้ำต้นไม้บ่อยๆ ซึ่งในขณะที่บางคนต้องการความสะดวกในการดูแลต้นไม้ ซึ่งนี่จึงเป็นเหตุให้ไม่มีสูตรดินที่ดีที่สุด เนื่องด้วยมันมีปัจจัยหลายอย่าง